Home
>
Knowledge Sharing
3 คำสำหรับทุน TGS

ขอคั่นรายการ “สาขาอยากแนะนำ” อีกครั้งเพราะเรามีทุนเปิดรับสมัครตามกันมาติด ๆ อีก 1 ทุน นั่นคือทุนที่ hot ที่สุดของฟุลไบรท์ทุน Fulbright Thai Graduate Scholarship Program หรือเรียกสั้นๆ ว่า TGS เป็นทุนเรียนต่อปริญญาโท หรือเอก (ไม่ใช่ควบโท-เอกนะ)ปีนึงให้แค่ 7 ทุน แต่ทำไม hot จัง hot ขนาดว่าเพิ่งกดโพสประกาศรับสมัครปุ๊บโทรศัพท์ก็ดังเข้ามาทันที บางคนเตรียมร่างใบสมัครไว้แล้วอีกต่างหาก บางคนสามารถบอกได้ทันทีว่าใบสมัครปีนี้ต่างจากปีที่แล้วตรงไหนน่าประกวดแฟนพันธุ์แท้ TGS มาก ๆ

 

ทำไมทุนนี้ถึง hot ถามพี่ๆ ที่เคยได้ทุนนี้หลายคน พอจะสรุปออกมาได้ 3 ประเด็นใหญ่ ๆ คือ

 

1.      Fulbright Family Network

ไม่ว่าจะถามใครรุ่นไหน ทุกคนพูดถึงเรื่องเดียวกันหมด นั่นคือเครือข่ายครอบครัวฟุลไบรท์คืออาจจะมีเรื่องอื่นบ้าง แต่เรื่องเครือข่ายนี้ถือว่ายืนหนึ่งมาโดยตลอดแล้วมันต่างจากเครือข่ายอื่นยังไงล่ะ คำตอบคือคำว่า “Family” ที่สื่อว่าเครือข่ายของฟุลไบรท์ไม่ใช่แค่คนรู้จักในวงการเดียวกันอาชีพเดียวกัน เรียนที่เดียวกัน หรือได้ทุนเดียวกัน แต่มันมีความเอื้ออาทรความเข้าใจ และ shared value ที่เชื่อมโยงความแตกต่างหลากหลายของชาวฟุลไบรท์เข้าด้วยกันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตามซึ่ง shared valueที่ว่านี้คือการเรียนรู้อย่างเปิดกว้างและสร้างสิ่งดี ๆ ให้สังคม โดยมีพื้นฐานจาก cross-cultural understanding ที่เป็นเป้าหมายหลักของฟุลไบรท์นั่นเองดังนั้น การเป็นสมาชิกของเครือข่ายครอบครัวฟุลไบรท์จึงไม่เพียงแต่ได้ connectกับเพื่อนใหม่ทั่วโลกที่มีความหลากหลายทั้งทางภาษา วัฒนธรรมความเชื่อ พื้นหลังความรู้และความสามารถ และสาขาวิชาที่เรียนแล้วยังเหมือนได้นามสกุลฟุลไบรท์พ่วงไปด้วย มีโอกาสไม่สิ้นสุดในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นแรงบันดาลใจและร่วมผนึกกำลังในการทำสิ่งดี ๆให้กับสังคมและโลกนี้

 

2.      Follow Your Passion

เนื่องจากทุนTGS ไม่ได้กำหนดว่าผู้สมัครต้องไปเรียนสาขาอะไรเลยเปิดโอกาสเต็มที่ให้กับทุกคน ทุก passion และทุกความฝันเราอาจจะสนใจในเรื่องที่ไม่เหมือนคนอื่น ไม่ตามกระแส หรืออาจจะมาก่อนกาลก็ได้แต่ต้องมี passion ต้องเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราจะไปเรียนนั้นเป็นเรื่องที่มีประโยชน์กับส่วนรวมใช้ได้จริง และไม่เกินความสามารถของเรา เวลาสมัครจึงไม่ต้องมองคนอื่นไม่ต้องไปเทียบว่าคนนั้นมาจากมหาลัยดัง หรือได้เกียรตินิยมเหรียญทอง  ให้มองที่ตัวเราและสิ่งที่เราจะทำต่อไปเป็นหลักบางคนอาจจะคิดว่า อ้าว สายวิทย์กับสายศิลป์จะแข่งกันยังไง เอาอะไรวัด ได้ค่ะวัดได้ วัดที่ impact ของแต่ละคน และคุณสมบัติว่าใครเหมาะจะเป็น Fulbrighter มากกว่ากัน (ส่วนคุณสมบัติของ Fulbrighter คืออะไรอันนี้ไปหากันเองเป็นการบ้านนะ)

 

3.      No Strings Attached

ข้อดีอีกอย่างนึงของทุนTGS คือไม่มีเงื่อนไขว่าจะต้องกลับมาทำอะไรที่ไหน เรามีแค่สัญญาใจกันว่าถ้าฟุลไบรท์ขอความช่วยเหลืออะไรถ้าช่วยได้ก็ช่วยกันหน่อยนะ...นะที่เป็นแบบนี้เพราะฟุลไบรท์เชื่อว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน Fulbrighter ของเราก็สามารถสร้างประโยชน์ให้สังคมโดยรวมได้เพราะท้ายที่สุดแล้ว สังคมของเราหรือโลกของเราไม่ได้แข็งแรงขึ้นจากจุด ๆ เดียวแต่ต้องมีหลายจุดช่วยกันผยุงและพัฒนาร่วมกัน โดยเฉพาะเมื่อคิดว่าจุดต่างๆ บนโลกได้เชื่อมโยงเข้าด้วยกันแบบที่เป็นอยู่ในตอนนี้

 

****แต่****แต่ขอย้ำอีกทีว่าตัวทุนฟุลไบรท์ไม่มีเงื่อนไขก็จริงแต่เนื่องจากได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐส่วนหนึ่ง (และย้ำอีกเรื่องเราเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกันนะ คือได้เงินจากรัฐบาลของสองชาติ) จึงต้องเดินทางด้วยวีซ่า J-1 มีสถานะเป็นนักวิชาการไม่ใช่นักเรียนธรรมดา และที่พ่วงมากับวีซ่าชนิดนี้คือเงื่อนไขห้ามทำงานในอเมริกาเป็นเวลา 2 ปีหลังจากเรียนจบ ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจสมัครทุนTGS ผู้สมัครจะต้องยอมรับตรงนี้ให้ได้ก่อนนะจะมางอแงทีหลังไม่ได้

 

เชียร์มาก็ขนาดนี้ใครที่คิดว่าตัวเองสนใจอยากมาเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายครอบครัวฟุลไบรท์ อย่ารอช้าอย่าใจเย็นว่ามีเวลาสมัครจนวันที่ 29 เมษาเพราะอาจจะต้องใช้เวลาในการเขียนการกรอก และที่สำคัญคือช่วงใกล้ ๆวันปิดรับสมัครมักจะมีปัญหา traffic jam ในระบบถ้าสมัครช่วงนั้นอาจจะมีอาการตื่นเต้นมากถึงมากที่สุด

 

รายละเอียดและขั้นตอนการสมัครอยู่ในเว็บไซด์ฟุลไบรท์ที่

https://www.fulbrightthai.org/thai-active-scholarship-program/2023tgs

 

อ่านบทสัมภาษณ์ศิษย์เก่าTGS เกี่ยวกับประสบการณ์พิเศษได้ในหนังสือ “ฟุลไบรท์ในมุมเรา”

PDF: https://shortest.link/1imb

Flip Book:  https://anyflip.com/afeb/buat/