ก่อนปิดรับสมัครทุนForeign Language Teaching Assistant Program หรือที่เรียกกันว่าทุน FLTA ในวันที่30 เดือนนี้ พี่ ๆศิษย์เก่าเลยชวนกันมาคุยและแบ่งปันประสบการณ์ที่อาจจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะสมัครปีนี้และปีอื่น ๆ ด้วย คุยกันหลายเรื่องมากกก แต่จะขอดึงมาสรุปไว้ตรงนี้ 2 เรื่องหลัก ๆคือ
1. Tips ในการกรอกใบสมัคร
· เรื่องคำถามเกี่ยวกับobjectives and motivation ถึงคำตอบหลัก ๆก็คือไปสอนภาษาไทยและพัฒนาภาษาอังกฤษ ตามวัตถุประสงค์ของโครงการเลยแต่!!! เราก็สามารถปรับให้มีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเองได้เพราะแต่ละคนก็จะต่างกันในด้านตำแหน่งงาน ประสบการณ์ และเป้าหมายส่วนตัวที่สำคัญคืออย่าลืมว่าต้องมีทั้ง giveและ takeไม่ใช่แค่ว่าเราจะคาดหวังอะไรจากโครงการนี้แต่โครงการนี้และมหาวิทยาลัย host(และ home)จะได้อะไรจากเราด้วย
· teaching methodology ตรงนี้เอาเข้าจริงแล้วจะขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยว่าเขาใช้ระบบการสอนแบบไหนอยู่ซึ่งในขั้นกรอกใบสมัครเราก็จะยังไม่รู้ว่าจะได้ไปที่ไหนดังนั้นสิ่งที่สามารถทำได้ก็คือ การหาความรู้เบื้องต้นด้านไวยากรณ์ภาษาไทยและใช้การคิดแบบ backwardsแปลงประสบการณ์การสอนภาษาอังกฤษเป็นการสอนภาษาไทยซึ่งครูภาษาอังกฤษก็จะมีความสมารถในการเปรียบเทียบภาษาทั้งสองอยู่เป็นทุนอยู่แล้วลองดูว่าเราสอนภาษาอังกฤษในห้องยังไง แล้วเอามาปรับเป็นการสอนภาษาไทยยังไง ยิ่งอธิบายให้เห็นภาพด้วยการยกตัวอย่างก็จะทำให้ใบสมัครเราไม่เป็นนามธรรมมากเกินไป
· การเป็น cultural ambassador เป็นอะไรมากกว่าการแต่งชุดไทยในงานมหาวิทยาลัยแต่คือโอกาสที่เราจะช่วยกระตุ้นให้ทั้งคนอเมริกันและคนต่างชาติอื่น ๆ อยากรู้จักประเทศไทยมากขึ้นอีกนิดเขาอาจจะไม่ได้มาลงเรียนกับเรา แต่อย่างน้อยเขาก็รู้จักเราแล้วซึ่งโอกาสที่ว่าก็มาได้หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการสอนในห้อง นอกห้องการเข้าร่วมชมรมต่าง ๆ แม้กระทั่งการทำอาหารซึ่งเป็นกิจกรรมที่ฮิตสุด ๆเราก็สามารถแทรกความรู้เกี่ยวกับประเทศเราไว้ได้ด้วย
· การเลือกมหาวิทยาลัยนั้นใช้ระบบmatching คือให้ทั้งผู้สมัครและมหาวิทยาลัยrank กันและกันมาจากนั้น IIE ก็จะจัดการจับคู่ให้ใกล้เคียงที่สุดซึ่งเราอาจจะไม่ได้ไปมหาวิทยาลัยที่เลือกไว้เป็นอันดับแรกก็ได้ แต่ถึงจะเป็นระบบ matching เราก็สามารถช่วยโน้มน้าวมหาวิทยาลัยให้พิจารณาเราเป็นอันดับต้นๆ ได้ด้วยการอธิบายเหตุผลที่มีน้ำหนัก เช่นเรารู้ว่าที่นี่มีอาจารย์ชื่อดังสอนด้านที่เราสนใจพอดี ก็ใส่ลงไป
2. ประสบการณ์ FLTA
FLTA เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์หลักๆ 3 เรื่องคือ การสอนภาษาไทย การเรียนภาษาอังกฤษและวิชาที่เกี่ยวข้องกับ American Studies และการเป็น cultural ambassador ดังนั้นประสบการณ์หลักๆ ของชาว FLTA ก็จะวนเวียนอยู่กับ3 เรื่องนี้
· ประสบการณ์การสอน
ตรงนี้จะต่างกันตามมหาวิทยาลัย บางแห่ง FLTA อาจจได้เป็นผู้ช่วยสอนบางแห่งก็ได้สอนเต็มตัว บางแห่งมี materialและ guidelinesให้ บางแห่งสามารถจัดการได้อย่างอิสระ แต่ละclass ก็จะมีนักศึกษาไม่เท่ากันจุดประสงค์ของนักศึกษาก็ต่างกัน บางคนเรียนเพื่อเตรียมมาทำวิจัยในเมืองไทยเราก็ต้องพยายามปรับเนื้อหาการสอนให้ตอบสนองความต้องการของนักเรียน
· ประสบการณ์การเรียน
นอกจากต้องลงเรียนวิชาเกี่ยวกับภาษาอังกฤษแล้วผู้รับทุน FLTA จะต้องลงเรียนวิชาที่เกี่ยวกับ American Studies ด้วยซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยจะตีความตรงนี้ต่างกัน บางที่ยังสามารถเรียนข้ามศาสตร์ได้ด้วยบางที่ให้เรียนเป็น audit บางที่เป็น credit บางที่บังคับลงบางวิชาต้องดู option ของแต่ละมหาวิทยาลัยและความสนใจของเรา
· ประสบการณ์การเป็น cultural ambassador
พี่ๆ แต่ละคนทำหน้าที่ cultural ambassador ได้แข็งขันมาก เข้าร่วมแทบจะทุกโอกาสและทำงานอาสาสมัครที่หลากหลาย ทุกคนใช้ตัวเองเป็น presenter ประเทศไทยไปที่ไหน เข้าวงไหน ก็พาประเทศไทยและคนไทยไปด้วย ที่สำคัญคือ มีการหาข้อมูลและเตรียมการไปล่วงหน้ามีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับรุ่นพี่ กิจกรรมไหนดีก็เอาไปปรับใช้ต่อยอดกันไป
สุดท้ายถามพี่ ๆ ว่าคุ้มมั๊ยทุนนี้ ต้องลางานไป9 เดือน แต่ไม่ได้ปริญญา พี่ ๆ สรุปเป็นเสียงเดียวกันว่า คุ้มยิ่งกว่าคุ้มเพราะนอกจากจะได้ตอบโจทย์ตัวเองตามที่เขียนไปใน objective & motivation แล้วการพาตัวเองออกไปนอก comfort zone ยังทำให้ได้รู้จักตัวเองมากขึ้นได้เพื่อนต่างชาติที่หลากหลายมาก ๆ แค่ชาว FLTA ด้วยกันจากประเทศอื่น ๆ ก็เยอะมากแล้วยังมีชาวอเมริกันและชาวต่างชาติที่ได้เจอะเจออีกเพียบหลายคนก็ยังติดต่อกันอย่างเหนียวแน่น ที่สำคัญที่สุดคือได้นามสกุลฟุลไบรท์มาใช้ทั้งชีวิตด้วย
ขอบคุณพี่เซฟ พีริยา พงษ์สาริกัน (2018 FLTA) ที่มาชวนคุยขอบคุณพี่เชง ปวิตรา อุราธรรมกุล(2020 FLTA) พี่แอน กัญญารัตน์ หรดี (2021 FLTA)พี่ฟิล์ม อ้อมทิพย์ ระรีธง (2021 FLTA) และพี่บิ๊ก วรเวทย์พิสิษ ยศศิริ (2021 FLTA) ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดกัน
ใครสนใจอยากฟังแบบเต็ม ๆเข้าไปฟังย้อนหลังได้ที่