Home
>
Knowledge Sharing
RECAP from Meet the Fulbrighters Series: เรียน computer science และวิศวะ ที่อเมริกา

ถ้าใครฟังMeet the Fulbrighters Series วันที่ 15มีนาที่ผ่านมาก็จะพบว่า ทางเลือกในการเรียนต่อสาย computer science และวิศวะที่อเมริกาช่าง....เยอะเยอะจนอาจจะทำให้หลายคนสับสนว่าจะเอายังไงกับตัวเองดี จากข้อมูลที่พี่ ๆ ทั้ง 8 คน(เป็นแขกรับเชิญกลุ่มที่เยอะที่สุดแล้วในซีรีส์นี้) ช่วยกันแชร์ พอจะสรุปได้ว่าจุดเด่นของการเรียน computer science และวิศวะที่อเมริกาคือ เราสามารถ“mix and match” ได้ตามความสนใจของเรา

 

ขอสลับเอาสายวิศวะขึ้นก่อนแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีสาขาต่างกันออกไป ที่เหมือนของไทยคือสาขาหลัก ๆ เช่น chemicalengineering, mechanical engineering, และ computerengineering บางสาขามีเปิดสอนที่ไทยแต่พอไปที่อเมริกากลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของสาขาที่กว้างกว่าเช่น petroleum engineering  ที่ Stanford จะอยู่ในDepartment of Energy and Resources Engineering ซึ่งนักศึกษาสามารถเลือกลงวิชาอื่นนอกเหนือจากด้านpetroleum ได้ เช่น computer science เพื่อเอามาพัฒนาapplication ด้าน energy resources นอกจากนี้ที่ Stanford ยังมีเปิดสอนManagement Science and Engineering ที่คล้ายกับ industrialengineering ที่สอนกันในไทย แต่จะครอบคลุมกว่า เพราะต้องเรียนรู้การจัดการบริหารทรัพยากรต่างๆ ในโรงงานเหมือนประหนึ่ง MBA บวกวิศวะ

 

นอกจากนี้ก็จะมีสาขาที่เฉพาะเจาะจงลงไปเช่น biomedial engineering, material science and engineering  ซึ่งมักจะเป็นสหสาขาและส่วนใหญ่จะตอบโจทย์ของรัฐนั้นๆ เช่น ที่ University of California, Riverside ก็จะมีสาขาchemical and environmental engineering และมีศูนย์วิจัยคุณภาพอากาศที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเพราะรัฐแคลิฟอร์เนียมีมลพิษทางอากาศสูงเลยให้ความสำคัญกับปัญหาอากาศมาก แต่ไม่ว่าจะอยู่ในโปรแกรมไหนนักศึกษาก็สามารถเลือก specialization หรือวิชาเลือกที่สนใจได้อย่างแทบจะไม่มีขีดจำกัดนับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเรียนที่อเมริกา

 

ส่วนในสาย  computer scienceนั้น เรียกได้ว่าออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ที่หลากหลายของผู้เรียน ถ้าเป็นคนที่มี backgroundด้านนี้มาก่อนและอยากจะค้นคว้าหาสิ่งใหม่ ๆ ที่ท้าทายขึ้น หรือสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนก็สามารถต่อยอดความรู้ในหลักสูตรปริญญาโท เอก ที่เน้นด้าน thesis ซึ่งเปิดสอนในมหาวิทยาลัยชั้นนำได้หรือถ้าเป็นคนที่อยู่ในสายใกล้เคียง มีพื้นฐานมาบ้างต้องการมาหาความรู้ในห้องเรียนเพื่อเอาไปใช้งานต่อ หรือเพื่อผันตัวเองเข้าสู่ businessก็จะเป็นสาย professional track ที่มีเปิดสอนอยู่เกือบทุกมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะในย่าน San Francisco Bay Area (หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า Bay Area) ซึ่งเกิดจากการขยายตัวของ Silicon Valleyมี specialization ให้เลือกหลากหลายเช่น artificial intelligence, robotics, human-computer interaction,security, และcryptography

 

ดั้งนั้นเมื่อพอจะรู้แล้วว่าเราสนใจอะไรก็ลอง search วิชา/โปรแกรมนั้น ดูว่าที่ไหนมีเปิดสอนบ้างสอนเป็นหลักสูตร degree หรือเป็น specialization ดูรายละเอียดว่าตรงกับที่เราอยากได้รึเปล่าหรือถ้ายังไม่มั่นใจว่าชอบอะไร แต่รู้ว่าอยากไปที่ไหนก็ลองเข้าไปไล่ดูมหาวิทยาลัยที่อยู่ในพิกัดนั้น ๆ ว่ามีโปรแกรมอะไรน่าสนใจเห็นแล้วตื่นเต้นอยากเรียนบ้าง จากนั้นค่อย shortlist มาค่อยๆ กรองกันอีกที แบบนี้น่าจะพอเห็นภาพ

 

ใครสนใจฟังฉบับเต็มของMeet theFulbrighters Series: Study Computer Science & Engineering in the U.S.เข้าไปฟังได้ที่

https://www.facebook.com/353795897307/videos/783960479186309