Home
>
Knowledge Sharing
TEA: รู้ก่อนสมัคร

หลังจากฟุลไบรท์เปิดรับสมัครทุนTeaching Excellence and Achievement Program หรือทุน TEA ไปเมื่อเดือนมกราคม ก็ได้รับความสนใจอย่างมาก วันนี้เรามาพร้อมกับเหตุผลที่ว่า“ทำไมต้องทุน TEA” และ “เรื่องต้องรู้ก่อนสมัครทุน TEA”เริ่มแรก เรามาทำความรู้จักกับทุน TEA ก่อนทุนนี้ก็เหมือนทุนฟุลไบรท์อื่น ๆ คือ เป็นทุนที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลสหรัฐอเมริกาผ่านโครงการฟุลไบรท์ในประเทศไทยแล้วทำไมจึงขึ้นชื่อว่าเป็นทุนฟุลไบรท์ที่เข้มข้นที่สุดทุนหนึ่ง ก็เพราะว่าถึงจะเป็นทุนระยะสั้นแค่6 อาทิตย์ หรือประมาณ 2 เดือน แต่ก็อัดแน่นไปด้วยความรู้ ประสบการณ์และความสนุกสนาน เปิดโอกาสให้ครูมัธยมได้สัมผัสประสบการณ์การเรียนการสอนทั้งในระดับมหาวิทยาลัยและระดับมัธยมศึกษาในประเทศอเมริการับประกันความรู้และความสนุกที่เล่ากันปากต่อปากจากรุ่นพี่ alumni

เมื่อประมาณปลายๆ เดือนมกราคม ฟุลไบรท์จัด Pre-departure orientation ให้ผู้รับทุนTEA ปีนี้ โดยมีรุ่นพี่มาช่วยแบ่งปันประสบการณ์สรุปใจความหลัก ๆ ได้ 2 เรื่องคือ

 

“ทำไมต้องทุนTEA”

ทุนTEAเป็นทุนระยะสั้น ที่เหมาะกับผู้เริ่มต้นไปต่างประเทศครั้งแรกเพราะจะไม่คิดถึงบ้านมากเกินไปและยังเป็นทุนที่เรียกว่าครบเครื่องเนื่องจากมีอะไรให้ทำมากมาย เช่น การฝึกสอนการเรียนเสริมภาษาอังกฤษ การได้สอนในชั้นเรียนอเมริกัน การคิดโครงการช่วยสอนการบรรยายพิเศษ การเรียนรู้เทคโนโลยีในการสอนออนไลน์ การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมรวมไปถึงการท่องเที่ยวกับ host family ที่รุ่นพี่ alumniทุกคนเล่าไปก็หัวเราะไป ฟังแล้วเห็นภาพว่าแต่ละพื้นที่ก็จะได้รับประสบการณ์ความรู้ และความสนุก แปลกใหม่ที่แตกต่างกันออกไป

 

ความรู้และประสบการณ์อัดแน่นขนาดนี้ต้องห้ามพลาด เพราะครูที่มีคุณภาพคือแสงสว่างของอนาคตเด็กในชาติทุกคน  

 

“เรื่องต้องรู้ก่อนสมัครทุนTEA”

1.ค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาทุน

ทุนนี้เป็นทุนเต็มจำนวนจึงครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการขอวีซ่าการเดินทาง ที่พัก อาหาร และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตลอดการเข้าร่วมโครงการรวมไปถึงประกันอุบัติเหตุและสุขภาพอีกด้วย แต่พี่ ๆ แนะนำว่าควรพกเงินบางส่วนติดตัวไปด้วยเผื่อจะซื้อของฝากหรือถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ซึ่งในกรณีนี้สามารนำใบเสร็จไปเบิกค่าใช้จ่ายได้ด้วย

 

2. การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง

จากสถานการณ์โควิดในปัจจุบันสนามบินและด่านตรวจคนเข้าเมืองมีการตรวจอย่างเข้มข้นมากขึ้นผู้รับทุนต้องทำตามกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆและหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือน่าเป็นห่วงต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้รับทุนฟุลไบรท์ก็จะพิจารณาประสานงานให้ผู้รับทุนสามารถดินทางกลับก่อนกำหนด

 

สำหรับสิ่งที่ควรเตรียมไปด้วย พี่ ๆแนะนำว่านอกจากของส่วนตัวและเอกสารที่จำเป็นแล้ว ควรต้องพกสำเนาผลตรวจ COVID-19 ใบจ่ายยา (หากมีโรคประจำตัว) ผลการตรวจร่างกายเบอร์ติดต่อของ IREX หน่วยงานที่กำกับดูแลตลอดการเดินทางและเมลาโทนินเพื่อบรรเทาอาการ Jet Lag ส่วนสิ่งที่ไม่ควรเตรียมไปคือ แพ็คเกจไวไฟ จากประเทศไทย เพราะสามารถหาซื้อได้แถมที่สนามบินก็ยังมีไวไฟฟรีให้ใช้อีกด้วย

 

3.ความเป็นอยู่ในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในอเมริกา

เมื่อไปอยู่ที่นั่นแน่นอนว่าวัฒนธรรมและความเป็นอยู่อาจแตกต่างจากไทยไม่มากก็น้อย พี่ ๆจึงมีเคล็ดลับมาฝาก เช่น ควรจะกระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรม และพยายามเข้าสังคมในทุกโอกาสหมั่นสังเกตเทคนิคการสอน และถ้าเป็นไปได้ก็ลองสอนร่วมกับครูในโรงเรียน แลกเปลี่ยนประสบการณ์การสอนตั้งเป้าหมายในการเรียนรู้หรือการสอน รวมไปถึงหาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและระบบการศึกษาไทยเพื่อไปแลกเปลี่ยนมุมมองกับครูชาวอเมริกันสิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้รับทุนได้ความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ อย่างแน่นอน

 

อย่างไรก็ตามต้องไม่ลืมว่าแต่ละรัฐต่างมีวัฒนธรรมและค่านิยมที่แตกต่างกัน ผู้รับทุนควรต้องศึกษาเพิ่มเติมนอกจากนี้ยังมีเรื่องสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งที่อเมริกาถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เช่นอย่าถ่ายรูปนักเรียนหรือคนอเมริกันถ้าไม่ได้รับอนุญาตก่อน

 

ทุนดีขนาดนี้จัดเต็มขนาดนี้ รีบชวนกันมาสมัครอย่าช้า เพราะจะหมดเขตวันที่ 31 มีนาคมนี้แล้วนะ

เรียบเรียงโดย กาชิฟ ธีร์จุฑาธรรม

นักศึกษาฝึกงาน

สาขาวิชาภาษาและการสื่อสาร คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

มหาวิทยาลัยสวนดุสิต